[Troubleshooting][xDSL] ทำไม xDSL routers ไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

ถ้าคุณไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อ DSL ได้สำเร็จหลังจากตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับ WAN แล้วโปรดดูขั้นตอนต่อไปนี้สำหรับการแก้ไขปัญหา

ก่อนทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหา โปรดติดต่อทาง ISP ของคุณที่เกี่ยวกับประเภทของ xDSL ที่จำเป็นสำหรับแผนบริการของคุณ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าพารามิเตอร์การตั้งค่า xDSL WAN ที่เกี่ยวข้องนั้นถูกต้อง รวมถึงสายเคเบิลนั้นใช้ได้ปกติ จากนั้นไปที่เว็บไซต์ ASUS official สำหรับข้อกำหนดการสนับสนุน Data rate xDSL สำหรับ ASUS xDSL modem router

หากข้อกำหนด xDSL ที่ ISP ให้มาไม่ตรงกับข้อกำหนด xDSL ของเราเตอร์โมเด็ม xDSL ปัจจุบันของคุณ แสดงว่ารุ่นดังกล่าวไม่รองรับบริการที่ ISP จัดหาให้ และไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อได้สำเร็จ ขอแนะนำให้คุณซื้อรุ่นที่สอดคล้องกับแผนบริการของ ISP

โปรดดูขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อยืนยันข้อกำหนดของเราเตอร์โมเด็ม xDSL บน ASUS official website.

(1) กรุณาไปที่เว็บไซต์ ASUS Global site http://www.junchengjj.com/ คลิก search

(2) ใส่ชื่อรุ่น ASUS xDSL modem router ของคุณแล้วกด Enter เพื่อค้นหา ณ ที่นี่เราใช้รุ่น DSL-AC68U เป็นตัวอย่า

(3) คลิก “more” เพื่อไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ DSL-AC68U

(4) ไปที่ Tech Specs เพื่อดูรายละเอียดสเปคของ DSL-AC68U

(5) ข้อกำหนดสำหรับประเภท xDSL และอัตราข้อมูลที่รองรับ

ขั้นตอนการแก้ไขปัญหา

ขั้นตอนที่ 1. โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า DSL modem router ของคุณเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง

            โปรดดูภาพและขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่าสายไฟและสายโทรศัพท์ของ DSL router เสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้า router แจ็คโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องหรือไม่

            หากสายใดสายหนึ่งไม่ได้เชื่อมต่ออยู่ โปรดตรวจสอบการเชื่อมต่อสายใหม่อีกครั้ง

รายละเอียดขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการเชื่อมต่อสายเคเบิลอย่างถูกต้อง

1. เสียบอะแดปเตอร์ของ DSL modem router เข้ากับพอร์ต DC-IN และเสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้า

     หมายเหตุ 1: หลังจากเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟแล้ว อย่าลืมกดปุ่มเปิด/ปิดเพื่อเปิดเราเตอร์โมเด็ม

     หมายเหตุ 2: หลังจากเปิด DSL modem router แล้ว ให้รอประมาณสองถึงสามนาทีเพื่อให้บูตเครื่อง 

2. มีสายโทรศัพท์สองสายที่เกี่ยวข้อง: สายหนึ่งจากโมเด็มไปยังตัวแยกสัญญาณ และสายหนึ่งจากตัวแยกสัญญาณไปยังพอร์ตโทรศัพท์ที่ผนัง

     โปรดนำตัวแยกสัญญาณออกและเชื่อมต่อโมเด็มกับสายผนังโดยตรง หรือเปลี่ยนสายโทรศัพท์สองสายข้างต้น

      เชื่อมต่อปลายด้านหนึ่งของสายเคเบิล RJ-11 cable เข้ากับพอร์ต DSL modem router และเชื่อมต่อปลายอีกด้านหนึ่งเข้ากับพอร์ต DSL ของตัวแยกสัญญาณ (splitter)

3. ใช้สาย เคเบิลเครือข่าย(RJ45) พื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณกับพอร์ต LAN ของ DSL modem router

• โปรดทราบว่าข้อมูลจำเพาะของตัวแยกสัญญาณไม่เหมือนกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินสายที่ไม่ถูกต้อง โปรดตรวจสอบพอร์ตและคำแนะนำบนตัวแยกสัญญาณเพื่อยืนยันว่าการเดินสายถูกต้อง
• สายสัญญาณโทรศัพท์อาจได้รับผลกระทบจากสัญญาณโทรศัพท์หากไม่มีตัวแยกสัญญาณ (Splitter) หากคุณไม่มีตัวแยกสัญญาณอยู่ในมือ เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบกับ ISP ของคุณว่ามีให้บริการหรือไม่

            (ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างของ Splitter)

ขั้นตอนที่ 2. อัปเดตเฟิร์มแวร์และรีเซ็ต xDSL modem router

คุณสามารถทำการไลฟ์อัปเดต หรืออัปเดตด้วยตนเองผ่าน ASUSWRT (Web GUI) ก่อนที่คุณจะเข้าสู่ระบบ Web GUI โปรดเชื่อมต่อสายคอมพิวเตอร์ของคุณกับ xDSL modem router จากนั้นเปิดเว็บ GUI แล้วไปที่ Advanced settings > Administration > Firmware Upgrade tab คลิก Check เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุดหรือไม่

[หมายเหตุ] สำหรับรายละเอียดขั้นตอนการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ โปรดดูที่ [Wireless] อัพเกรดเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์ของคุณ

   หลังจากอัปเกรดเฟิร์มแวร์ โปรดคืนค่า xDSL modem router เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น

     (1) กดปุ่ม RESET ค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที หรือจนกว่าไฟ LED ของเราเตอร์จะเริ่มกะพริบ จากนั้นคุณสามารถปล่อยปุ่มกดได้

         ในระหว่างนี้ ไฟ LED ทั้งหมดของเราเตอร์ควรจะดับลง เป็นเรื่องปกติเพราะเราเตอร์กำลังรีบูตตัวเอง

         รอจนกว่าไฟแสดงสถานะ Power และไฟของ Wi-Fi สว่างขึ้นอีกครั้ง คุณสามารถลองเข้าสู่ GUI ของเราเตอร์อีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 3. หลังจากรีเซ็ตเราเตอร์แล้ว โปรดตรวจสอบสถานะไฟ LED ของ DSL ติดค้าง จากนั้นให้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อการตั้งค่าอินเทอร์เน็ต

           ถ้าไฟ LED DSL ไม่ติด โปรดติดต่อ ISP เพื่อให้แน่ใจว่าสายทำงานได้ตามปกติ หรือคุณอาจลองเปลี่ยนสาย RJ11

            เมื่อไฟ LED DSL ติดปกติ โปรดเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณกับ xDSL modem router จากนั้นดำเนินการ Quick Internet Setup (QIS) หากยังไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อ DSL ได้ โปรดลองทำด้วยตนเอง

       (1). ในหน้า firmware Network map คลิก WAN ทางด้านซ้าย สำหรับการเชื่อมต่อ ADSL ให้เลือก ATM เป็น Transfer Mode สำหรับการเชื่อมต่อ VDSL โปรดเลือก VDSL WAN (PTM) แทน คลิกเพิ่มเพื่อดำเนินการต่อ

        (2). กำหนดค่า VPI/VCI Encapsulation mode, Connection type, User Name, Password และข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ จากนั้นคลิก Save ที่ด้านล่างของหน้า

หมายเหตุ: ข้อมูลที่ป้อนด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่าง การตั้งค่าเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ ISP ของคุณ ปรึกษากับ ISP หากเราเตอร์ไม่สามารถรับที่อยู่ IP ที่ถูกต้อง หรือหากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับประเภทการเชื่อมต่อ WAN

Transfer Mode

  1. VDSL/VDSL2 WAN (PTM)

      WAN Connection Type

   หมายเหตุ: ข้อมูลที่เกี่ยวข้องต้องยืนยันกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณ

      (1). Automatic IP

      (2). PPPoE

ตัวอย่าง:

User Name: 87875692@hinet.net 

Password: xxxxxxx

(3). Static IP

ตัวอย่าง:

WAN IP Address: 192.168.100.33

WAN Subnet Mask: 255.255.255.0

WAN Default Gateway: 192.168.100.1

DNS Server1: 192.168.100.1

DNS Server2: 8.8.8.8

(4). Bridge

ตัวอย่าง: (แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค)

Region: Taiwan

WAN connection type: PPPoE

User Name : 87875692@hinet.net

Password: xxxxxxx

หากเกิดอาการ disconnection เกิดขึ้นหลังจากใช้อินเทอร์เน็ตเป็นระยะเวลาหนึ่ง ขอแนะนำให้คุณลอง PPPoe > ปิดใช้งานการตรวจหาอินเทอร์เน็ต (ค่าเริ่มต้นคือ PPP Echo) แล้วคลิก Apply เพื่อบันทึก

Transfer Mode

2. ADSL/ADSL2/ASDSL2+ WAN (ATM)

    WAN Connection Type

   หมายเหตุ: ข้อมูลที่เกี่ยวข้องต้องยืนยันกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณ

  (1). Automatic IP (MER)

       VPI / VCI: 0 / 33

  (2). PPPoE

      ตัวอย่าง: 

       VPI / VCI: 0 / 33

       User Name: 87875692@hinet.net

        Password: xxxxxxx

(3). PPPoA

   ตัวอย่าง:   

        VPI / VCI: 0 / 33

        User Name : 87875692@hinet.net

        Password: xxxxxxx

(4). IPoA

ตัวอย่าง:   

   VPI / VCI: 0 / 33

   WAN IP Address: 192.168.100.33

   WAN Subnet Mask: 255.255.255.0

   WAN Default Gateway: 192.168.100.1

   DNS Server1: 192.168.100.1

   DNS Server2: 8.8.8.8

(5). Bridge

      VPI / VCI: 0 / 33

หากขั้นตอนข้างต้นไม่ได้ผลและ ISP ยืนยันว่าสายเป็นปกติ โปรดส่งข้อเสนอแนะจากหน้าเว็บสำหรับการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม

ขั้นตอนการส่งข้อเสนอแนะ

1) รีเซ็ตเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น และทำ QIS ให้สมบูรณ์

2) ตั้งค่าจาก “DSL Modulation” ให้เป็น “Auto sync-up”.

3) ตั้งค่าจาก “Country / ISP - Specific Setting” ให้เป็น “Disabled”.

4) ตั้งค่าจาก “Dynamic Line Adjustment (DLA)” ให้เป็น “Disabled”.

5) เสียบ USB disk เข้ากับ router

6) ส่งแบบฟอร์มคำติชมพร้อมตัวเลือก “DSL Line / Wi-Fi Diagnostic *” ที่ตั้งค่าเป็น “xDSL line” และ “Diagnostic debug log capture duration” เป็นเวลาที่คุณคิดว่าเกิดปัญหาขึ้น (เช่น "24 ชั่วโมง" หากไม่มีปัญหาในช่วงเวลานี้ คุณจะต้องทำการทดสอบนี้อีกครั้ง)

7) โปรดแจ้งให้เราทราบหลังจากส่งข้อเสนอแนะและโปรดระบุอีเมลที่ใช้สำหรับส่ง และเวลาทดสอบที่คุณตั้งไว้ (ระบบจะส่งบันทึกการผลการทดสอบให้โดยอัตโนมัติ ผ่านทางอีเมล)

8) ส่งภาพหน้าจอ “DSL Log” ขณะการใช้งานแบบปกติและไม่ปกติ (ที่หน้า “System Log -> DSL Log” ไม่ใช้หน้า “System Log - General Log”)

E.g.

9). เมื่อบันทึกบันทึกการตรวจแก้จุดบกพร่องการวินิจฉัยเสร็จสิ้น (ไอคอนการเชื่อมต่อที่มุมขวาบนจะเปลี่ยนกลับเป็นสีเขียว ) ให้รีเฟรชหน้า UI แล้วคลิกเครื่องหมาย " ! " ที่มุมบนขวา

     จากนั้นคลิก “Send debug log now” (ต้องใช้ USB disk)

จากขั้นตอนนี้จะเข้าสู่หน้า special feedback โปรดคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อบันทึกบันทึกการดีบัก (WiFi.log.gz) เพื่อส่งมาให้ทางเราวิเคราะห์

10). หากขั้นตอนข้างต้นไม่สามารถทำได้หรือไม่สามารถส่งความคิดเห็นได้ด้วยเหตุผลบางประการ คุณยังสามารถส่งบันทึกที่อยู่ใน USB ของคุณมาที่เราผ่านแผนก Support (Logs จะอยู่ใน USB:\asus_diagnostic\WiFi.log.gz)

11). หลังจากที่คุณส่งบันทึกและอีเมลแล้ว โปรดติดต่อ ASUS service center เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับการติดตาม http://www.junchengjj.com/support/